วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551

การโคลนิ่ง


การโคลน หมายถึงการสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาใหม่ โดยไม่ได้อาศัยการปฏิสนธิของเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ คือสเปิร์ม กับเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย คือไข่ ซึ่งเป็นการสืบพันธุ์ตามปกติ แต่ใช้เซลล์ร่างกาย (Somatic cell) ในการสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาใหม่

อันที่จริงเทคโนโลยีการโคลน เป็นเทคโนโลยีที่พบเห็นในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลายมาหลายสิบปีมาแล้ว โดยเฉพาะกับพืช เช่น การขยายพันธุ์กล้วยไม้ ซึ่งเป็นการาขยายพันธุ์ที่ประสบผลสำเร็จอย่างสูง การโคลนพืช จะใช้เซลล์อวัยวะ เนื้อเยื่อ หรือแม้แต่โพรโตพลาสต์ของพืช มาเลี้ยงในสารอาหาร และในสภาวะที่เหมาะสม ส่วนต่าง ๆ ของพืชดังกล่าวสามารถจะเจริญเป็นพืชต้นใหม่ ที่มีลักษณะตรงตามพันธุ์เดิมทุกประการ การตัดกิ่ง ใบ ราก ไปปักชำก็ จัดว่าเป็นโคลนในพืชที่เรียกว่า การเลี้ยงเนื้อเยื่อ ก็มีการศึกษาการโคลนในสัตว์บ้างเหมือนกัน เช่น J.B Gurdon จากมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด ในประเทศอังกฤษ ได้ทำ
การโคลนกบ ซึ่งนับว่าเป็นการโคลนสัตว์มีกระดูกสันหลังเป็นครั้งแรก J.B Gurdon ได้นำนิวเคลียสของเซลล์ ที่ได้จากลำไส้เล็กของลูกอ๊อดกบ (เป็น Somatic cell) มีโครโมโซม 2 n ไปใส่ในเซลล์ไข่ของกบอีกตัวหนึ่งที่ทำลายนิวเคลียสแล้ว พบว่าไข่กบนี้ สามารถเจริญเติบโตเป็นกบตัวใหม่ ที่มีลักษณะเหมือนกบ ที่เป็นเจ้าของนิวเคลียสที่นำมาใช้
ในกรณี
การโคลนแกะดอลลี ของนายเอียน วิลมุต ใช้เทคโนโลยีวิธีเดียวกันกับการโคลนกบ โดยนำนิวเคลียสของเซลล์เต้านมแกะที่เป็นต้นแบบมาใส่ในไข่ของแกะอีกตัวหนึ่ง แล้วนำเซลล์ไข่ที่ทำการโคลนแล้วไปถ่ายฝากตัวอ่อนในท้องแม่แกะอีกตัวหนึ่ง


การโคลนอีกวิธีหนึ่งเป็นการเลียนแบบการเกิดฝาแฝดแท้ในระยะแรก ๆ ทำการทดลองกับ Sea urchin เมื่อไซโกตของ Sea urchin แบ่งตัวออกเป็น 2 เซลล์ ก็แยกเซลล์ทั้งสองออกจากกัน นำแต่ละเซลล์ไปเพาะเลี้ยงพบว่า เซลล์แต่ละเซลล์ของ Sea urchin สามารถเจริญเป็นเอ็มบริโอและลาวาได้(ดังภาพ)
การโคลน Sea urchin นี้เป็นการโคลนในระดับเอ็มบริโอ ถือว่าเป็นการสร้างสิ่งมีชีวิตที่เป็นแฝดแท้ ในระยะต่อมา มีการทดลองในแกะเช่นกัน โดยจะทำการโคลนเมื่อไซโกตเริ่มแบ่งตัวเแทนเอ็มบริโอในระยะ 8 เซลล์ แล้วจะตัดเอาเซลล์เหล่านั้นออกจากกัน แยกไปฝากในมดลูกแม่แกะตัวอื่น ๆ เมื่อลูกแกะที่ได้จากการโคลนวิธีนี้คลอดออกมา ทุกตัวจะมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนกัน
การโคลนนี้ถ้าไปใช้กับมนุษย์ มีมนุษย์ลักษณะเหมือนกันทุกประการหลาย ๆ คน จะเกิดอะไรขึ้น



(ที่มา http://blog.eduzones.com/boil/3051)

วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ถ้าคุณอยากมีความสุข...

3 ชม. ให้ ดื่ม กิน อาหารอร่อย
3 วัน ใส่เสื้อตัวใหม่
3 สัปดาห์ ไปเที่ยว ทัศนาจร
3 เดือน มีกิ๊ก
3 ปี มีภรรยา/สามีใหม่
ตลอดชีวิต ปลูกต้นไม้

“เพราะต้นไม้...มีแต่ให้”


เราต้นไม้ให้กิ่งใบ แก่คนเขา
ให้ร่มเงาเยือกเย็น เป็นกุศล
ให้ดอกสวย รวยรื่น ชื่นกมล
ท่านเป็นคน ท่านให้ อะไรเรา

ถ้าคุณอยากมีความสุข...

3 ชม. ให้ ดื่ม กิน อาหารอร่อย
3 วัน ใส่เสื้อตัวใหม่
3 สัปดาห์ ไปเที่ยว ทัศนาจร
3 เดือน มีกิ๊ก
3 ปี มีภรรยา/สามีใหม่
ตลอดชีวิต ปลูกต้นไม้

“เพราะต้นไม้...มีแต่ให้”


เราต้นไม้ให้กิ่งใบ แก่คนเขา
ให้ร่มเงาเยือกเย็น เป็นกุศล
ให้ดอกสวย รวยรื่น ชื่นกมล
ท่านเป็นคน ท่านให้ อะไรเรา





ที่มา : ผู้ว่าฯ สยุมพร ลิ่มไทย

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

พระบรมราโชวาท

พระบรมราโชวาท

“ชาติบ้านเมืองประกอบด้วยนานาสถาบัน อันเปรียบได้กับอวัยวะทั้งปวงที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นชีวิตร่างกาย ชีวิตร่างกายดำรงอยู่ได้ เพราะอวัยวะใหญ่น้อยทำงานเป็นปกติพร้อมเพียงกันอย่างไร ชาติบ้านเมืองก็ดำรงอยู่ได้ เพราะสถาบันต่างๆตั้งมั่นและปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยพร้อมมูลอย่างนั้น”
(พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครพลเรือน เมื่อ 8 มิถุนายน พ.ศ.2514)



“การดำเนินชีวิตโดยใช้วิชาการอย่างเดียวยังไม่พอ จะต้องอาศัยความรู้รอบตัวและหลักศีลธรรมประกอบด้วย ผู้ที่มีความรู้ แต่ขาดความยั้งคิด นำความรู้ไปใช้ในทางมิชอบ ก็เท่ากับเป็นบุคคลที่เป็นภัยแก่สังคมมนุษย์”
(พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อ 18 กันยายน พ.ศ.2504)



งานภาษาไทย

นมัสการมาตาปิตุคุณ


ข้าขอนบชนกคุณ ชนนีเป็นเค้ามูล
ผู้กอบนุกูลพูน ผดุงจวบเจริญวัย
ฟูมฟักทะนุถนอม บ บำราศนิราไกล
แสนยากเท่าไร ๆ บ คิดยากลำบากกาย
ตรากทนระคนทุกข์ ถนอมเลี้ยง ฤ รู้วาย
ปกป้องซึ่งอันตราย จนได้รอดเป็นกายา
เปรียบหนักชนกคุณ ชนนีคือภูผา
ใหญ่พื้นพสุนธรา ก็ บ เทียบ บ เทียมกัน
เหลือที่จะแทนทด จะสนองคุณานันต์
แท้บูชไนยอัน อุดมเลิศประเสริฐคุณ



ถอดความ
เป็นบทกล่าวแสดงความเคารพ กตัญญูต่อครูอาจารย์ที่คอยอบรมสั่งสอน ให้ความรักความเมตตาแก่ศิษย์ทุคน ซึ่งถือเป็นพระคุณเลิศ




นมัสการอาจริยคุณ



อนึ่งข้าคำนับน้อม ต่อพระครูผู้การุณ
โอบเอื้อและเจือจุน อนุสาสน์ทุกสิ่งสรรพ์
ยัง บ ทราบก็ได้ทราบ ทั้งบุญบาปทุกสิ่งอัน
ชี้แจงและแบ่งปัน ขยายอัตถ์ให้ชัดเจน
จิตมากด้วยเมตา และกรุณา บ เอียงเอน
เหมือนท่านมาแกล้งเกณฑ์ ให้ฉลาดและแหลมคม
ขจัดเขลาบรรเทาโม - หะจิตมือดที่งุนงม
กังขา ณ อารณ์ ก็สว่างกระจ่างใจ
คุณส่วนนี้ควรนับ ถือว่าเลิศ ณ แดนไตร
ควรนึกและตรึงใน จิตน้อมนิยมชม





ถอดความ
เป็นบทกล่าวนอบน้อมพระคุณของบิดามารดา ผู้ที่ให้กำเนิด ให้คำสั่งสอน ให้การดูแลอย่างดี เลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมด้วยความรัก ให้ลูกเติบโตอย่างมีคุณภาพ เปรียบพระคุณบิดามารดายิ่งใหญ่กว่าภูเขาหรือแผ่นดิน สุดที่จะทดแทนหมดได้



วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551

ก่อนที่จะรัก

ก่อนที่จะรัก . . คุณพร้อมที่จะอกหักหรือยัง
ก่อนที่จะรัก . . คุณพร้อมที่จะเลิกเจ้าชู้ได้หรือยัง
ก่อนที่จะรัก . . คุณรัก หรือ คุณหลง ถามตัวเองก่อน

เมื่อได้รัก . . คุณปฏิบัติตัวเหมือนก่อนที่จะรักหรือเปล่า
เมื่อได้รัก . . คุณอย่าเอา รัก ไปรวมกับเซ็กซ์ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน
เมื่อได้รัก . . คุณรัก หรือ คุณผูกพัน กันแน่
(เพราะบางคน หมดรัก แล้วแต่ไม่เลิก เพราะความผูกพันนั่นแหละ)

เมื่อไร้รัก . . คุณจะกลับมาอยู่คนเดียวเหมือนเดิมได้หรือเปล่า
เมื่อไร้รัก . . คุณจะทนจากความเจ็บปวดนั้นได้นานแค่ไหน
เมื่อไร้รัก . . คุณพร้อมที่จะเปิดหัวใจให้คนอื่นอีกหรือเปล่า
เมื่อไร้รัก . . ทุก ๆ อย่างก็ดูว่างเปล่า . . ซะเหลือเกิน . .เฮ้อ . .


ก่อนที่คุณจะรัก, เมื่อคุณได้รักและยามเมื่อคุณไร้รักแล้ว . .
ก็อย่าลืมถามตัวเอง . . ให้ดีก่อนนะจ๊ะ. .
ไม่งั้นแล้วคุณจะเสียใจภายหลัง
โดยที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ . . .



ทีมา:http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=194067&chapter=23

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ช่วงเวสาที่มีความสุขที่สุดของคนเรา



เค้าว่ากันว่า…. ช่วงเวลาที่มีความสุข ที่สุดของคนเราคือ….




การตกหลุมรักใครสักคน
การได้จูบครั้งแรก
การได้หัวเราะจนท้องแข็ง
การได้นั่งอ่านจดหมายเก่าในวันว่าง
การได้ใช้เวลาว่างในที่ๆ แสนงดงาม
การได้ฟังเพลงที่ชอบทางวิทยุ
การได้นอนฟังเสียงฝนตก
เมื่อเวลาที่เราอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ
แล้วเจอผ้าเช็ดตัวอุ่น
การสอบเสร็จ
การได้รับโทรศัพท์จากใครสักคนที่ไม่ได้พบเจอเขาบ่อยนัก
การเจอเงินที่เราซ่อนไว้ตั้งนานมาแล้ว
การได้ยิ้มกับใครสักคน
การได้คุยโทรศัพท์ได้เป็นชั่วโมงกับคนรัก
การยิ้มโดยไม่ต้องมีเหตุผล
การถูกชมอย่างกะทันหัน
การตื่นขึ้นมาแล้วตระหนักได้ว่ามันน่าจะนอนต่อได้อีก
ตั้งชั่วโมงแน่ะ
การได้ฟังเพลงที่ทำให้เรานึกถึงคนพิเศษของเรา
การได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม
การมีเพื่อนใหม่
การรู้สึกเหมือนผีเสื้อบินว่อนอยู่ในท้องคุณเวลาคุณเจอหน้าเค้าคนนั้น
การผ่านช่วงเวลานึงไปได้พร้อมกับเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ
การได้เห็นคนที่คุณชอบมีความสุข
การได้ใส่เสื้อของคนที่เราชอบทั้งๆ
ที่กลิ่นหอมของเค้ายังกรุ่นอยู่
การได้เจอเพื่อนเก่าอีกครั้งแล้วรู้สึกเหมือนไม่มีอะ ไรเปลี่ยนไปเลย
การได้มองท้องฟ้ายามโพล้เพล้
การได้ยินใครสักคนบอกรักคุณ
ที่สุดคือ…การได้รู้ว่าเราเป็นที่รักของคนที่เรารัก

ที่มา : http://www.sakid.com/2008/07/07/8288/